ก็ต้องยอมรับว่าสำหรับคนไทยแล้ว ไม่ค่อยคุ้นเคยว่าต้องไปปรึกษาแพทย์ก่อนการเดินทาง แต่ในประเทศตะวันตก ทั้งในยุโรปและอเมริกา นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาเลยครับ ถ้าใครสักคนจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะเที่ยวประเทศเขตร้อน เขาต้องไปพบแพทย์ก่อน เพื่อฉีดวัคซีน และขอคำปรึกษาต่างๆ จากการสำรวจโดยหน่วยเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง คณะเวชศาสตร์เขตร้อนในปี 2551 ที่ถนนข้าวสารพบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณกว่า 60% ผ่านการรับคำปรึกษาจากแพทย์มาแล้วก่อนมาเที่ยวเมืองไทย แต่คนไทยเราเองคงไม่มีใครทำใช่ไหมครับ หายากมาที่จะมาหาหมอก่อนไปเที่ยว ยกเว้นว่าจะไปประเทศแถบแอฟริกา หรือลาตินอเมริกา หรือมีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว
ในแต่ละปีพวกเราคนไทยมีกิจกรรมการท่องเที่ยวกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งถ้าถามว่าทำไมต้องไปหาหมอ ไปเที่ยวไม่กี่วันต้องกลัวอะไร ก็ต้องบอกเลยครับว่า ส่วนใหญ่แล้วไม่จำเป็นต้องมาพบแพทย์ครับ แค่รักษาสุขภาพและระวังเรื่องทั่วๆไปตามหลักสุขศึกษาง่ายๆ ก็จะทำให้ไปเที่ยวได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยครับ มีเพียงส่วนน้อยที่น่าจะพบแพทย์ก่อน
ตัวอย่างกรณีต่อไปนี้น่าจะปรึกษาแพทย์ก่อนการเดินทางครับ
1 มีโรคประจำตัว หรือมีปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดปัญหาในการเดินทาง เช่น ถ้าเป็นโรคหัวใจ โรคปอด ฯลฯ ถ้าโรคเหล่านี้มีความรุนแรงหรือเป็นระยะที่มีอาการเหนื่อยง่าย แล้ว อาจส่งผลเวลาเดินทางท่องเที่ยวได้ อย่างน้อยควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนนะครับว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยว เพราะในบางราย การเดินทางเป็นระยะทางไกล หรือการขึ้นเครื่องบินอาจไม่ปลอดภัย หรือต้องการออกซีเจนบนเครื่องบิน ซึ่งคงต้องพิจารณาเป็นรายๆไป
2 จะเดินทางไปทวีปแอฟริกาหรืออเมริกาใต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นเขตการระบาดของไข้เหลืองซึ่งอย่างน้อยต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลืองก่อนการเดินทาง และอาจจำเป็นต้องฉีดวัคซีนอื่นๆร่วมด้วยเช่น วัคซีนป้องกันไข้กาฬหลังแอ่นเป็นต้น
3 จะเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคมาลาเรีย เนื่องจากโรคมาลาเรียเป็นโรคร้ายแรง ถ้าจำเป็นต้องเดินทางไปยังดงมาลาเรียโดยเฉพาะในแอฟริกา และประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกตอนใต้ ควรมาปรึกษาแพทย์ก่อนครับ เพราะในบางรายจำเป็นต้องกินยาป้องกัน
4 จะเดินทางไปในประเทศกำลังพัฒนาเป็นเวลานาน เช่นต้องเดินทางไปทำงานในแอฟริกาหลายเดือน เช่นนี้อาจจำเป็นต้องมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีนที่จำเป็นก่อนครับ และจะได้รับคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวและการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องด้วย
5 จะเดินทางใปในที่ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพสูง เช่นจะเดินทางไปเที่ยวในเขตที่สูงมากๆเช่น ทิเบต เปรู อาจเกิดความเสี่ยงต่อ high altitude sickness อาจจำเป็นต้องเตรียมตัว และกินยาบางอย่างเพื่อป้องกันภาวะดังกล่าว
6 จะเดินทางไปยังพื้นที่ที่กำลังมีการระบาดของโรคติดเชื้อบางอย่างอยู่ ในกรณีนี้ต้องระวัง และอาจต้องติดตามข่าวสารทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดครับ
ตัวอย่างข้างต้นเป็นกลุ่มที่น่าจะปรึกษาหมอก่อนการเดินทางครับ ซึ่งถ้าเราเตรียมตัวอย่างดีจะทำให้การเดินทางของเราเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข