ไปบราซิล เปรู ต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองไหม Updated 2018

คำถามนี้จัดเป็นคำถามที่หลายคนสงสัยก่อนจะเดินทางไปประเทศบราซิลและเปรู ซึ่งหลายคนได้พยายามหาข้อมูล search ดู ใน internet หรือได้โทรติดต่อสอบถามหลายที่ เช่น สถานทูต บริษัททัวร์ สายการบิน และอาจได้คำตอบที่ยังดูสับสน เช่น ไม่ต้องฉีดหรอก ไปได้เลยเขาไม่ตรวจหรอก หรือบางคนก็บอกว่า ต้องฉีดนะ เพราะเดี๋ยวจะเข้าประเทศไม่ได้ หรือบอกคนบอกว่า เคยไปแล้ว ฉีดไปก่อนด้วย แต่พอไปจริงๆแล้วก็ไม่มีใครตรวจ ต่อไปคงไม่ต้องฉีดหรอก ฯลฯ การจะเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างอาจจะไม่ง่ายนัก เพราะเกี่ยวเนื่องกับข้อเท็จจริงทางการแพทย์ รวมถึงข้อกำหนดและกฎหมายหลายอย่าง ใครยังไม่ได้อ่าน ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไข้เหลืองและสมุดรับรองการฉีดวัคซีน ขอแนะนำให้อ่านก่อนครับ  เพราะเป็นพื้นฐานจะให้เข้าใจเรื่องนี้ได้กระจ่างขึ้น

ใครที่ไม่อยากอ่านรายละเอียด ต้องการรู้แค่คำตอบว่าจะไปบราซิลหรือเปรูต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองไหม คำตอบสั้นๆในทางปฏิบัติคือ “ต้องฉีดครับ” นักท่องเที่ยวต้องไปพบแพทย์เพื่อขอฉีดวัคซีนและขอสมุดรับรองการฉีดวัคซีนด้วยก่อนเดินทางอย่างน้อย 10 วัน (ถ้ามีข้อห้ามในการฉีดวัคซีน เช่น เป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน แพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆไป)

ถ้าตอบง่ายๆได้เช่นนั้น ว่าต้องฉีด แต่ทำไมข้อมูลจากบางแหล่ง บางที่บอกว่าไม่ต้องฉีด ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ

1. แม้ว่าประเทศบราซิล/เปรู เป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการติดโรคไข้เหลือง แต่ไม่ได้มีความเสี่ยงทุกพื้นที่ บางพื้นที่ไม่มีไข้เหลืองระบาด เช่น เมือง Lima, Cuzco และบริเวณ Machu Picchu ในประเทศเปรู หรือเมือง ริโอ เดอจานาโร (Rio de Janeiro) หรือ เซาเปาโล (Sao Paulo)เคยเชื่อกันว่า ไม่มีไข้เหลืองระบาด ดังนั้นคนที่จะไปเที่ยวแค่พื้นที่ดังกล่าวของทั้ง 2 ประเทศ จึงไม่เสี่ยงต่อการติดโรคไข้เหลือง

ลองดูจากแผนที่ข้างล่างครับ พื้นที่ที่มีสีเหลืองเป็นพื้นที่ที่มีโรคไข้เหลืองระบาดครับ ดังนั้นถ้าพิจารณาง่ายๆแค่ประเด็นนี้ ก็น่าจะไม่ต้องฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณามากกว่านั้นครับ โดยเฉพาะเรื่องการระบาดของโรคไข้เหลือง 

yellow-fever-brazil

2. ตั้งแต่กลางปี 2017 เรื่่อยมาถึงปี 2018 พบการระบาดของโรคไข้เหลืองในหลายเขตของประเทศบราซิล ซึ่งเดิมเคยเชื่อกันว่าไม่มีไข้เหลืองระบาด รวมทั้งบริเวณใกล้เคียงเมือง ริโอ เดอจานาโร (Rio de Janeiro) และเซาเปาโล (Sao Paulo) ด้วย โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกล่าสุด (มกราคม 2561) พบผู้ป่วยที่ยืนยันว่าเป็นไข้เหลืองในบราซิล 35 คน เสียชีวิตไปถึง 20 คน และมีเข้าข่ายเฝ้าระวังอีกถึง 145 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานพบนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อไข้เหลืองจากการเที่ยวในประเทศบราซิลด้วย ดังนั้นคำแนะนำล่าสุดจาก US CDC จึงได้มีการขยายคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้เหลืองในคนที่จะเดินทางไปเมือง Rio de Janeiro และ Sao Paulo ด้วย ดังในแผนที่ล่าสุดด้านล่างครับ 

3. คนไทยส่วนใหญ่เมื่อไปเที่ยวบราซิล จะไปเที่ยวหลายเมือง เช่น หลายคนอาจจะไปเมือง Manaus ซึ่งเป็นเมืองที่จะเที่ยวแม่น้ำอเมซอน ดูปลาปิรันย่า และส่วนใหญ่มักจะไปเที่ยวน้ำตกอีกัวซู (Iguassu falls) ด้วย จะเห็นว่าสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 2 แห่งอยู่ในพื้นที่สีเหลือง ซึ่งมีการระบาดของโรคไข้เหลือง จำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองครับ หรือถ้าใครไปเปรู และจะไป เมือง Iquitos เพื่อไปเที่ยวอเมซอนทางตอนเหนือของเปรูด้วย จำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันครับ

4. ทางการของประเทศบราซิลและเปรู ไม่ได้กำหนดให้มีตรวจหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลืองก่อนเข้าประเทศ ก็คือตม.บราซิลและเปรูไม่ตรวจว่าใครจะฉีดวัคซีนไข้เหลืองก่อนเข้าประเทศเขาหรือไม่ คือคนที่ไม่ฉีดวัคซีนก็สามารถเดินทางเข้าประเทศเขาได้ ไม่มีปัญหา แต่นักท่องเที่ยวพวกเราอาจจะติดโรคได้ ถ้าไปยังพื้นที่เสี่ยงของเขา เขาไม่ตรวจไม่ได้แปลว่าประเทศของเขาปลอดจากไข้เหลือง แต่แปลว่านักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าประเทศต้องรู้เอง และเตรียมตัวป้องกันเอง เขาแค่ไม่ตรวจว่าคุณฉีดมาหรือเปล่า ดังนั้นการได้ข้อมูลมาว่า ไปได้เลย ไม่ต้องฉีดหรอกเพราะเขาไม่ตรวจ ต้องระวังครับ เราควรจะพิจารณาว่าในการเดินทางของเราจะเสี่ยงต่อโรคหรือไม่มากกว่า

5.  นอกจากเราต้องพิจารณาเรื่องข้อเท็จจริงทางการแพทย์ว่าพื้นที่ไหนเสี่ยงต่อการติดไข้เหลืองหรือไม่  ต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันหรือไม่ ข้อกำหนดของสายการบิน และข้อกฎหมายของประเทศไทยเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาครับ

6. ในแง่ของกฎหมายไทย ได้มีการกำหนดไว้ว่า ผู้ใดเดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคไข้เหลือง จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนไข้เหลืองก่อนเข้าประเทศไทย มิฉะนั้นอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศได้ ซึ่งกฎหมายนี้ได้ระบุรายชื่อ 42 ประเทศ ที่เป็นเขตติดต่อไข้เหลือง ซึ่งรวมประเทศบราซิลและประเทศเปรูด้วย แปลว่าตม.ไทยจะตรวจสมุดรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลืองในคนที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านั้น กฎหมายไทยเราไม่สนใจว่าคุณไปบราซิล ไปในเมืองหรือพื้นที่ที่มีไข้เหลืองหรือไม่ เขาจะดูตามกฎหมายว่าคุณมาจากประเทศบราซิลหรือเปล่า ถ้ากลับมาจากบราซิลคุณต้องแสดงหนังสือรับรอง ที่ประเทศไทยต้องมีมาตรการเช่นนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครนำโรคไข้เหลืองกลับมา ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่มากในด้านการสาธารณสุขนั่นเอง จึงเป็นที่มาว่าหลายคนจึงได้ยินมาว่า ตอนไปทางบราซิลเขาไม่ตรวจหรอก แต่ถ้าไม่ได้ฉีดไป ตอนบินกลับเข้าประเทศไทยอาจมีปัญหาได้

7. นอกจากประเทศไทยแล้วยังมีอีกหลายประเทศที่มีกฏคล้ายๆกัน เช่นเมื่อคุณบินออกจากประเทศบราซิล แล้วเดินทางไปประเทศจีนหรืออินเดียต่อ ทางตม.ของทั้ง 2 ประเทศจะขอดูสมุดรับรองการฉีดวัคซีน ถ้าคุณไม่มีอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ หรือในบางสายการบินอาจจะไม่อนุญาตให้คุณขึ้นเครื่องบินด้วยซ้ำไป

8. ดังนั้นโดยสรุปนะครับ สิ่งแรกที่แพทย์จะพิจารณาคือ นักท่องเที่ยวต้องเดินทางในพื้นที่เสี่ยงต่อโรคไข้เหลือง ถ้าต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงก็ต้องฉีดวัคซีน เพราะโรคนี้เป็นโรคร้ายแรง ไม่มียารักษา และทำให้เสียชีวิตได้ แต่ถ้าเดินทางไปเฉพาะเมืองที่ไม่มีไข้เหลือง เช่นไปประชุมที่ Lima อย่างเดียว โดยทั่วไปก็จะแนะนำว่าควรจะฉีดครับ เพราะอาจจะมีปัญหาเวลาเดินทางกลับมาประเทศไทยได้ แต่ถ้านักท่องเที่ยวมีข้อห้ามหรือข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้เหลือง เช่น เป็นผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ หรือเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ แพทย์ต้องพิจารณาเป็นรายๆไปครับ

ทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลสำคัญๆในการตอบคำถามว่า ไปเที่ยวบราซิลหรือเปรูจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองหรือไม่ จะเห็นว่าคำตอบอาจจะไม่ง่ายเหมือนที่คิด มีประเด็นที่ต้องพิจารณามากเหมือนกันครับ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ช่วยให้ข้อมูลและพิจารณา การได้ข้อมูลมาจากแหล่งอื่นเช่น internet เพื่อนๆ ญาติๆที่เคยไปมาแล้ว ฯลฯ ควรต้องพิจารณาให้ดีครับ อย่าเชื่อเพียงใครบอกว่า เคยไปมาแล้ว ไม่เห็นใครตรวจสมุดเล่มเหลืองเลย คงไม่ต้องฉีดมั้ง ถ้าไม่แน่ใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะเหมาะสมกว่า และควรปรึกษาเนิ่นๆก่อนการเดินทางครับ เพราะการฉีดวัคซีนไข้เหลืองต้องฉีดก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 วัน

ข้อมูลเพิ่มเติม