Thai Travel Clinic

Hospital for Tropical Diseases
Faculty of Tropical Medicine, Mahidol University

Main Menu

มี 39 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

 

ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนไข้เลือดออก

 

UPDATE 1 ธันวาคม 2560:  ขณะนี้มีข้อมูลใหม่จากบริษัทผู้ผลิต แจ้งว่า วัคซีนอาจเพิ่มความเสี่ยงในคนที่ไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้เฉพาะคนที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้วเท่านั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่

 

บทนำ

ไข้เลือดออกเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกีซึ่งมี 4 สายพันธุ์ ติดต่อโดยมียุงลายเป็นพาหะ ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย และมักจะไม่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อดังกล่าว ส่วนหนึ่งของผู้ติดเชื้ออาจมีอาการไข้เฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว บางครั้งอาจพบจุดเลือดออก ผื่นตามตัว โดยอาการจะเป็นราว 1 สัปดาห์ เรียกลักษณะอาการนี้ว่า ไข้เดงกี (dengue fever) ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง คือมีลักษณะเหมือนผู้ป่วยไข้เดงกี ร่วมกับ มีเกล็ดเลือดต่ำมาก และมีภาวะสารน้ำรั่วจากหลอดเลือด ซึ่งอาจพบมีภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ เรียกโรคนี้ว่าไข้เลือดออก ในปัจจุบันยังไม่มียาที่จำเพาะต่อเชื้อดังกล่าวการรักษาทำได้เพียงดูแลประคับประครอง ซึ่งผู้ป่วยมักหายดีเป็นปกติ ภายใน 1สัปดาห์

ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกในหลายบริษัท ส่วนใหญ่ในอยู่ในขั้นตอนการวิจัยพัฒนา แต่มีวัคซีนไข้เลือดออก (Dengvaxia; CYD TDV ) จาก บริษัทซาโนฟี่ ที่เริ่มใช้ในประเทศแถบลาตินอเมริกาและฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ.2558 และวัคซีนนี้ได้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทยในช่วงปลายปี 2559 และได้เริ่มจำหน่ายในปี 2560 ดังนั้น เราจึงควรทราบข้อมูลของวัคซีน เพื่อการตัดสินใจใช้ที่เหมาะสม

 

 

ชนิดของวัคซีนการศึกษาที่ผ่านมา

วัคซีนนี้พัฒนาโดยใช้ไวรัสที่ทำวัคซีนไข้เหลืองเป็นวัคซีนต้นแบบ แล้วเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมของไวรัสไข้เหลืองให้เหมือนกับไวรัสเดงกี จึงทำให้ไวรัสลูกผสมมีส่วนประกอบที่ผิวเหมือนไวรัสเดงกี ในวัคซีนไข้เลือดออกนี้จะมีส่วนประกอบของไวรัสลูกผสมทั้ง 4 สายพันธุ์ของไวรัสเดงกี และก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันโรคได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ ได้มีการศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งในอาสาสมัครผู้ใหญ่และเด็กใน หลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย ในขณะนี้มีข้อมูลจากอาสาสมัครในการศึกษารวมราว 35,000 คน

 

 

ข้อห้าม ข้อบ่งชี้ และตารางการฉีดวัคซีน

เนื่องจากวัคซีนนี้เป็นวัคซีนเชื้อเป็น จึงไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยที่ใช้รักษามะเร็ง ผู้ป่วย HIV เป็นต้น และไม่แนะนำในผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของวัคซีน โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้ ใต้ผิวหนังใน วันที่ 0, 6 เดือน และ 1 ปี ในผู้ที่มีอายุ 9 ปี ถึง 45 ปี และ แนะนำให้สตรีคุมกำเนิดอย่างน้อย 1 เดือน หลังได้รับวัคซีน

 

วัคซีนนี้แนะนำเฉพาะในผู้ที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้วเท่านั้น

 

ความปลอดภัย

วัคซีนนี้มีความปลอดภัยสูง มีอาการข้างเคียงหลังได้รับวัคซีนน้อย อาการที่พบได้บ่อย (ประมาณ 10%) เช่น อาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บบริเวณที่ได้รับวัคซีน ซึ่งอาการดังกล่าวมักหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กังวลคือเมื่อให้วัคซีนแล้วอาจส่งเสริมให้เกิดโรคที่รุนแรงกว่าเดิม ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่า ถ้าให้วัคซีนนี้ในคนที่ไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อน มีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น ดังนั้นวัคซีนนี้จึงแนะนำให้ใช้เฉพาะผู้ที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาแล้วเท่านั้น 

 

 

ประสิทธิภาพของวัคซีน

จากาการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเดงกีที่มีอาการ ประมาณ 60% (หลังได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม) โดยกลุ่มที่ได้ประสิทธิภาพวัคซีนสูงกว่าคือกลุ่มเด็กโต (9-16 ปี)

การศึกษาส่วนใหญ่เป็นเด็ก มีข้อมูลน้อยใน คนที่มีอายุมากกว่า 18 ปี เนื่องจากการศึกษาออกแบบมุ่งเน้นไปในกลุ่มเด็ก และวันรุ่นในประเทศที่เป็นแหล่งโรค

ในแต่ละทวีป หรือการศึกษาจะมีประสิทธิภาพของวัคซีนที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากขึ้นกับ ระดับภูมิคุ้มกันเดิมก่อนการฉีดวัคซีน สายพันธุ์ของไวรัสที่ระบาดในช่วงการศึกษา และช่วงอายุของอาสาสมัคร

 

วัคซีนเป็นวัคซีนเชื้อเป็นที่มีความปลอดภัยสูง ประสิทธิภาพของวัคซีนประมาณ 60% ในผู้เคยติดเชื้อเดงกีหรือเด็กโตน่าจะมีประสิทธิภาพดีกว่าเด็กเล็ก