คำถามที่ถามบ่อยในคลินิกนักท่องเที่ยว (FAQ)
คำถามทั่วไป
ได้ คลินิกนักท่องเที่ยวให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักท่องเที่ยวหรือเป็นผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
หลักทั่วไปในการเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
1. รักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงก่อนการเดินทาง ไม่ควรเดินทางทั้งๆที่ยังไม่สบายอยู่ ในผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเมื่อจะเดินทางโดยเฉพาะไปในต่างประเทศหรือไปเป็น ระยะเวลานาน และต้องเตรียมยาประจำตัวไปด้วยเสมอ
2. ต้องหาข้อมูลเรื่องสถานที่หรือประเทศที่เราจะเดินทางไป ว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพในด้านไหนบ้าง เพราะแต่ละประเทศแต่ละพื้นที่จะมีความเสี่ยงแตกต่างกันไปเช่น
ถ้าจะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศแถบแอฟริกา
- ต้องตรวจสอบเรื่องไข้เหลืองก่อนเสมอ อ่านได้จากบทความ วัคซีนไข้เหลือง (Yellow fever vaccine) เรื่องจำเป็นก่อนไปแอฟริกา,อเมริกาใต้
- พิจารณาว่าประเทศนั้นอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อโรคไข้กาฬหลังแอ่นหรือไม่ อ่านได้จากบทความ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal vaccine)
ได้ ที่คลินิกนักท่องเที่ยว แพทย์สามารถออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนให้ได้ โดยหนังสือจะมีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น
- สมุดรับรองการฉีดวัคซีน (สมุดเล่มเหลือง) ใช้เป็นหลักฐานในการฉีดวัคซีนไข้เหลืองซึ่งสามารถใช้ยื่นขอวีซ่า และใช้เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองบางประเทศ
- สมุดรับรองการฉีดวัคซีนทั่วไป จะเป็นสมุดที่ทางคลินิกออกให้เพื่อบันทึกประวัติการฉีดวัคซีน
- หนังสือรับรองต่างๆ เพื่อใช้ในการสมัครเรียนต่างประเทศ หรือไปแลกเปลี่ยน หนังสือหรือเอกสารเหล่านี้ ทางนักเรียนหรือผู้ปกครองมักจะได้รับจากบริษัทหรือองค์กรที่ดูแลนักเรียน หรือเป็นเอกสารจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่จะไปเรียนต่อ ซึ่งมีความหลากหลายและมีรายละเอียดอยู่ ควรนำเอกสารดังกล่าวมาพบแพทย์ทุกครั้ง
- หนังสือรับรองวัคซีนที่เคยได้รับตอนเด็ก ในกรณีนี้ผู้ปกครองต้องนำสมุดสีชมพู ที่บันทึกวัคซีนที่เคยได้รับตอนเด็ก ในกรณีที่สมุดวัคซีนหาย ให้ลองติดต่อโรงพยาบาลที่เด็กเคยฉีดวัคซีนเพื่อขอประวัติ แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ แพทย์จะทำการซักประวัติ อาจต้องเจาะเลือดเพื่อยืนยัน และอาจต้องฉีดวัคซีนบางชนิดใหม่ แล้วแต่กรณี
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนไม่จำหน่ายยาป้องกันมาลาเรียให้กับประชาชนทั่วไป เนื่องจากยามาลาเรียเป็นยาควบคุมพิเศษ จำเป็นต้องควบคุมการใช้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยา
อย่างไรก็ตามถ้าผู้เดินทางจำเป็นต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อมาลาเรีย อาจจำเป็นต้องใช้ยาป้องกัน ควรมาพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาเป็นรายๆไป ในกรณีดังกล่าวแพทย์อาจพิจารณาจ่ายยาป้องกันมาลาเรียให้แล้วแต่กรณี
ที่คลินิกสามารถตรวจ การตรวจภูมิคุ้มกันวัณโรคทางผิวหนังได้ ซึ่งมีหลายชื่อเรียก เช่น TB skin test, Tuberculin skin tes หรือ Mantoux test โดยทั่วไปในประเทศไทยไม่นิยมใช้การตรวจวัณโรคโดยวิธีนี้ แต่ในบางประเทศยังกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะการขอ VISA นักเรียน นักศึกษาต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองวัณโรคก่อน
ผู้ที่จะขอเข้ารับบริการจะต้องมาที่คลินิก 2 ครั้ง ครั้งแรกในวันจันทร์ และ วันอังคารเท่านั้น เพื่อฉีดยาทดสอบทางผิวหนัง และมาพบแพทย์อีกครั้งในอีก 48 - 72 ชั่วโมงเพื่ออ่านผล ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจดังกล่าว ควรทำนัดหมายล่วงหน้า
หมายเหตุ - ในคลินิกนอกเวลาราชการ ไม่มีบริการตรวจ TB skin test
ควรศึกษาข้อมูลจากบทความนี้ก่อน
- ทำอย่างไรเมื่อต้องตรวจ Tuberculin test (TB skin test) ก่อนไปเรียนเมืองนอก
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการตรวจ Tuberculin skin test
ที่คลินิกมีบริการเจาะเลือดตรวจวัณโรค (IGRA, QuantiFERON) ซึ่งสามารถมารับบริการได้ในวันจันทร์-พฤหัสบดีก่อน 11.00 น. จะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการในการรอรับผล
วัคซีนที่มีใช้ในทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงมาก มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย และส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นอาการไข้ อาการปวด เหมื่อย บริเวณที่ฉีดวัคซีน หรือ รู้สึกครั่นเนื้อครั้นตัว ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงและอาการเหล่านั้นจะหายได้เอง ส่วนการแพ้วัคซีนหรือเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงพบได้น้อยมาก
ประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน อยู่ในเกณฑ์ดีมาก วัคซีนส่วนใหญ่จะการป้องกันโรคได้มากกว่า90% บางวัคซีนอาจมีประสิทธิภาพในป้องกันโรคได้สูงถึง 95-99% อย่างไรก็ตามยังไม่มีวัคซีนชนิดใด ที่มีประสิทธิภาพในป้องกันโรคได้ 100%
จำเป็นมาก การให้ประวัติที่ชัดเจน และครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติการแพ้วัคซีน หรือส่วนประกอบของวัคซีน การตั้งครรภ์ โรคประจำตัว ยาที่ทานเป็นประจำ การผ่าตัด ฯลฯ เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากแพทย์จำเป็นต้องพิจารณาข้อบ่งชี้ และข้อห้ามในการรับวัคซีนต่างๆ เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือหญิงมีครรภ์จะไม่สามารถรับวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ได้ (Live atttenuated vaccine)
ได้ การฉีดวัคซีนหลายๆ ชนิด ในวันเดียวกันนั้นไม่ได้เป็นอันตรายและสามารถรับพร้อมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัคซีนเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนแรงแล้ว เช่น วัคซีนไข้เหลือง วัคซีนอีสุกอีใส ฯลฯ ควรรับในวันเดียวกัน หากไม่สามารถรับได้ในวันเดียวกันได้ จำเป็นจะต้องทิ้งช่วงห่าง อย่างน้อย 4 สัปดาห์ เพราะอาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันลดลง
ต้องมาฉีดก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 วัน และต้องนำ passport ตัวจริงมาด้วย เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานในการออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง
ถ้าไม่แน่ใจว่าจะสามารถฉีดวัคซีนไข้เหลืองได้หรือไม่ ให้รีบมาปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะในบางรายถ้าฉีดวัคซีนไม่ได้ เช่นเป็นผู้สูงอายุ แพทย์จะแนะนำให้ยกเลิกการเดินทาง ดังนั้นอย่าเพิ่งจ่ายเงินค่าตั๋วเครี่องบินหรือค่าทัวร์ เพราะอาจจะมีปัญหาเวลาขอเงินคืน แนะนำให้อ่านบทความนี้ก่อน ขั้นตอน ข้อห้ามและข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้เหลือง
อ่านเพิ่มเติม:
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับไข้เหลือง
- จะไปเที่ยวต้องฉีดวัคซีนไข้เหลืองไหม ไม่ฉีดไปได้ไหม
- ขั้นตอน ข้อห้ามและข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้เหลือง
- หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง
- ไปบราซิล-เปรูต้องฉีดไข้เหลืองหรือไม่
ถ้ามีกำหนดการเดินทางแน่นอน สามารถมาฉีดวัคซีนไว้ก่อนได้ ซึ่งในกรณีนี้วันที่ฉีดวัคซีนจะยังไม่ได้หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลือง แต่จะได้ในภายหลังเมื่อนำ passport มา
ถ้าเคยได้รับการฉีดวัคซีนไข้เหลืองที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน สามารถมาติดต่อขอรับสมุดรับรองการฉีดวัคซีนไข้เหลืองได้ใหม่ แต่ต้องนำใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ บัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง มาติดต่อด้วยตนเอง เพื่อออกเล่มใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องฉีดวัคซีนใหม่
แต่ถ้าได้รับวัคซีนจากที่อื่น ทางคลินิกไม่สามารถออกใหม่ให้ได้ ต้องนำหลักฐานติดต่อโรงพยาบาลที่เคยฉีดวัคซีนนั้นๆ หรือต้องรับการฉีดวัคซีนใหม่
การนัดหมาย / วางแผนเข้ารับบริการ
ควรมาพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา และฉีดวัคซีน ก่อนเดินทางตั้งแต่เนิ่นๆ โดยทั่วไปแนะนำให้มาก่อนการเดินทางอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เนื่องจากวัคซีนบางอย่างต้องฉีดหลายเข็ม กว่าที่่ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ การมาฉีดตั้งแต่เนินๆจะให้ผลการป้องกันที่ดีกว่า
ถ้าท่านต้องการฉีดวัคซีนไข้เหลืองจำเป็นต้องมาพบแพทย์ก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 วัน ถ้ามีแผนเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงของโรคไข้เหลือง ท่านสามารถมาขอฉีดวัคซีนไข้เหลืองล่วงหน้าได้เลย เช่น ถ้ามีแผนจะเดินทาง 1-2 เดือนข้างหน้า ท่านสามารถมาขอฉีดวัคซีนได้เลย ไม่ต้องรอใกล้ๆ10 วันก่อนการเดินทาง
ไม่จำเป็น ผู้เดินทางสามารถ 'walk-in' เข้ามาพบแพทย์ที่คลินิก ตามวันราชการ เวลา 8.00-15.00 น. หรือมาคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ วันจันทร์ อังคาร พุธพฤหัสบดี เวลา 16.00-19.00น. และวันเสาร์เวลา 9.00-12.00น. ได้โดยไม่ต้องนัดหมาย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากในปัจจุบันมีผู้รับบริการเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ท่านทำนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก และลดเวลารอคอยลงได้ ท่านสามารถเลือกวันเวลาที่สะดวก และลงทะเบียนนัด online ได้ด้วยตัวเอง โดย คลิกที่นี่
ถ้าวันเวลาที่ท่านต้องการนัดหมายเต็ม ท่านสามารถใส่ email ของท่านในระบบเพื่อแจ้งเตือนถ้าวันเวลานั้นว่างอีกครั้งจากการที่มีคนยกเลิกนัดหมาย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ระบบนัดหมายของคลินิก สามารถทำนัดได้ 1-2 คนต่อช่องว่าง 1 ช่อง ถ้าท่านเดินทางเป็นกลุ่มมากกว่า 2 คน และต้องการนัดพบแพทย์ ต้องทำการนัดหมายเพิ่มอีกช่อง โดยเลือกช่องว่างใกล้กัน
เช่น กลุ่มของท่านมี 4 คนคือ A,B,C,D และมีช่องว่างเวลา 9.00-9.15น. และ 9.15-9.30น.
1. ให้ทำนัดสำหรับ A,B ในช่อง 9.00-9.15 และ C,D ในช่อง 9.15-9.30
2. ระบุในช่องหมายเหตุว่า ทั้ง 2 นัดหมายเป็นกลุ่มนักเดินทางเดียวกัน
3. ทางคลินิกจะจัดให้ท่านพบแพทย์พร้อมกัน ดังนั้นทุกคนควรมาพบแพทย์พร้อมกันเวลา 9.00น.
การทำนัดหมาย online เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด อย่างไรก็ตามในบางสถานการณ์ บางคนอาจพบปัญหาคือไม่สามารถทำนัดหมายได้โดยเฉพาะการทำนัดหมายผ่าน smart phone ถ้าท่านพบ Error code 400 server call หรือ Bad Request Error 400 หรือคำคล้ายๆกัน กรุณาลองทำตามขั้นตอนนี้
1. ให้ลอง clear cache ของ browser ของท่านก่อน ถ้าไม่หายให้ลองเปลี่ยนไปใช้ browser อันอื่น หรือใช้ private/incognito mode
2. ถ้าท่านใช้ smart phone และเจอปัญหาดังกล่าว ให้ลองทำนัดหมายผ่าน Desktop PC แทน การทำผ่าน PC จะเกิด error ขึ้นน้อยกว่ามาก
3. ถ้ายังพบปัญหาอยู่ ลองทำนัดหมายผ่าน Link สำรองนี้ นัดหมาย online
4. ถ้าทำตามทุกขั้นตอนแล้ว ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ยังคงขึ้น Error 400 อยู่ กรุณาแจ้งที่ Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ท่านสามารถ walkin ได้โดยไม่ต้องนัดหมาย และไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์มาสอบถามหรือนัด ทางคลินิกจะพยายามจัดให้ท่านแทรกเข้าพบแพทย์โดยเร็วถ้าผู้นัดหมายไม่มาหรือแพทย์ว่าง อย่างไรก็ตามท่านอาจจำเป็นต้องรอเป็นเวลานาน ถ้ามีผู้นัดหมายและ walkin เป็นจำนวนมาก
ถ้าท่านต้องการ walkin แนะนำให้มาช่วงเช้า เวลาทำการสำหรับผู้ที่ต้องการ walk-in
จันทร์ - ศุกร์: 08.00 - 15.00 น
คลินิกนอกเวลา: จันทร์ อังคาร พฤหัสบดี: 16.00 - 18.00 น
เสาร์: 09.00 - 11.00 น
คลินิกปิดให้บริการในวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ปัจจุบันคลินิกมีระบบการแจ้งเตือนถ้าช่องนัดหมายว่าง เช่น ถ้าวันเวลาที่ท่านต้องการนัดหมายเต็ม ท่านสามารถใส่ email ของท่านในระบบเพื่อแจ้งเตือนถ้าวันเวลานั้นว่างอีกครั้งจากการที่มีคนยกเลิกนัดหมาย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
ไม่แนะนำให้โทรศัพท์มานัดหมาย เนื่องจากทางคลินิกต้องการข้อมูลหลายอย่างในการทำนัด เช่น ชื่อ นามสกุล ซึ่งต้องสะกดให้ถูกต้อง รวมถึงวันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน/Passport รวมทั้งวันเวลาที่ต้องการทำนัด ซึ่งการโทรศัพท์มานัดหมายจะทำให้เกิดความไม่สะดวกอย่างมาก
แนะนำให้ทำนัดหมาย Online จะสะดวกที่สุด รวมทั้งจะเห็นวันเวลาที่ว่าง และท่านสามารถเลือกเวลาได้นัดด้วยตัวเอง และได้รับ email ยืนยันนัดหมายทันที
ท่านสามารถยกเลิกนัดหมาย โดยการกดที่ Link CANCEL ใน email ยืนยันของท่าน ระบบจะทำการยกเลิกนัดหมายให้ทันที
ท่านต้องยกเลิกนัดหมาย อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนถึงเวลานัด
อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านมีความจำเป็นต้องยกเลิกนัดหมายเร่งด่วนใกล้ถึงเวลานัด กรุณาแจ้งทางคลินิกทาง email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ท่านสามารถยกเลิกนัดหมายเดิม และทำนัดหมายใหม่ได้ ในวัน-เวลาที่ยังว่างอยู่ แต่ถ้าเวลาที่ท่านต้องการเต็ม ท่านอาจจะ walkin มาได้ แต่อาจต้องใช้เวลารอคอยนานกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีผู้มารับบริการเป็นจำนวนมาก
การมารับบริการที่คลินิก
คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง ตั้งอยู่ชั้น 3 อาคารราชนครินทร์ ซึ่งเป็นอาคารของโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน
วิธีเดินทางมาที่คลินิก
1. เดินทางโดย BTS
เป็นวิธีที่แนะนำ และสะดวกที่สุด ท่านสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใช้ทางออกมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ฯ และเดินตามถนนราชวิถี ดูแผนที่ และ รายละเอียดการเดินได้ที่นี่หรือ สามารถดูคลิป video วิธีการเดินทางได้ ที่นี่
2. นั่งรถสาธารณะ เช่น Taxi หรือรถประจำทาง
โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ตั้งอยู่บนถนนราชวิถี ตรงข้ามรพ.พระมงกุฏฯ ดูแผนที่คลินิกได้ที่นี่
3. ใช้รถส่วนตัว
ไม่แนะนำให้นำรถส่วนตัวมา เนื่องจากบริเวณโรงพยาบาลมีที่จอดรถไม่เพียงพอ อาจไม่สะดวกในการหาที่จอดรถ ท่านที่นำรถมาสามารถจอดได้ที่อาคารวิทยบริการฯ และอาคารราชนครินทร์ชั้นใต้ดิน แต่ที่จอดรถมักจะเต็มโดยเฉพาะในเวลาราชการ แต่ถ้าท่านมาคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการที่จอดรถมักจะว่างกว่า
1. นักท่องเที่ยวจะต้องกรอกแบบฟอร์มของคลินิกเพื่อลงทะเบียน (10-15 นาที)
2. พบแพทย์เพื่อให้คำปรึกษาก่อนการเดินทาง ซึ่งแพทย์จะพิจารณาแผนการเดินทาง สถานที่ที่จะไป ความเสี่ยงของโรคต่างๆ และแนะนำการให้วัคซีนหรือยาป้องกันโรคเหมาะสม (20-30 นาที)
3. รับวัคซีน และฉีดยาโดยพยาบาลวิชาชีพ (10-15 นาที)
4. สังเกตุอาการหลังฉีดวัคซีน (30 นาที)
โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวจะได้รับการบริการเสร็จสิ้นภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการนัดหมายมาล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลารอคอย และจะตัดขั้นตอนที่ 1 ไปได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถกรอกประวัติและลงทะเบียน online ได้ล่วงหน้า
แพทย์จำเป็นต้องรู้ข้อมูลของผู้เดินทาง หลายอย่างเพื่อช่วยในการตัดสินใจในเลือกวัคซีน และการป้องกันโรคที่เหมาะสม เช่น อายุ เพศ โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา รวมถึงประวัติที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน นอกจากข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ แพทย์จำเป็นต้องรู้แผนการเดินทาง เช่น จะไปกี่วัน ไปท่องเที่ยวหรือไปทำงาน ลักษณะอาหารการกิน ที่พัก เป็นอย่างไร เพราะความเสี่ยงในการเกิดโรคจะไม่เหมือนกันในผู้เดินทางแต่ละคน
ดังนั้น นักเดินทางที่เข้ารับบริการที่คลินิกนักท่องเที่ยวจึงจำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มที่มีรายละเอียดดังกล่าว เพื่อช่วยทำให้การให้คำปรึกษาก่อนการเดินทางเป็นไปถูกต้อง สะดวกรวดเร็ว และเพื่อเป็นการประหยัดเวลา นักท่องเที่ยวสามารถกรอกแบบฟอร์มดังกล่าวแบบ online ได้ หรือจะ download แบบฟอร์มกรอกล่วงหน้าก่อนมาที่คลินิกได้
วัคซีนเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงมาก ผลข้างเคียงมีน้อย และส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงและหายได้เองใน 1-2 วัน เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด มีไข้ มีผื่นขึ้นฯลฯ
อย่างไรก็ตาม มีภาวะฉุกเฉินสำคัญอย่างหนึ่งที่อาจเกิดได้หลังได้รับวัคซีน คือการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดจากร่างกายของผู้รับวัคซีนเกิดการตอบสนองผิดปกติต่อวัคซีน ทำให้เกิดอาการผื่นขึ้น หายใจลำบาก ความดันโลหิตตำ่ ชีพจรเร็ว ภาวะดังกล่าวจัดเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างรีบด่วน ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะแสดงอาการตั้งแต่ 5-10 นาทีแรกหลังได้รับวัคซีน ซึ่งถ้าได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วและหายเป็นปกติได้
ภาวะการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรงนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัย ผู้รับวัคซีนทุกคนจึงต้องอยู่สังเกตอาการในโรงพยาบาลอย่างน้อย 30 นาที