การตรวจรักษาโรคหลังการเดินทาง
การเจ็บป่วยหรือไม่สบายหลังการเดินทางท่องเที่ยวเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไๆไป เช่น เป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วง ซึ่งโรคต่างๆเหล่านี้มักจะไม่รุนแรงและหายเองได้ และโรคเหล่านี้จะพบได้ทั่วไปในทุกประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตามมีโรคอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นโรคสำคัญเฉพาะถิ่นเฉพาะพื้นที่ ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจจะติดโรคดังกล่าวจากการเดินทางท่องเที่ยว แต่เพิ่งมาแสดงอาการภายหลังกลับมาประเทศไทยแล้ว เช่น นักท่องเที่ยวที่มีไข้หลังจากกลับจากซาฟารีที่ประเทศแทนซาเนีย และเคนยา อาจเกิดจากการติดเชื้อมาลาเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านักท่องเที่ยวมีอาการไข้สูงหนาวสั่น ในกรณีดังกล่าวนักท่องเที่ยวควรพบแพทย์และต้องบอกประวัติการเดินทางให้แพทย์ทราบทุกครั้ง เนื่องจากถ้านักท่องเที่ยวไม่ได้บอกหรือแพทย์ไม่ทราบ อาจทำให้แพทย์นึกถึงโรคที่พบได้บ่อยทั่วๆไปในประเทศไทยแทนเช่น โรคไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ ทำให้การวินิจฉัยโรคมาลาเรีย อาจล่าช้าและทำให้เกิดอันตรายได้
ดังนั้นประวัติการเดินทางจึงเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการวินิจฉัยโรค เช่น นักท่องเที่ยวที่มีอุจจาระร่วงหลังจากกลับจากประเทศอินเดีย อาจเกิดจากเชื้อพยาธิหรือเชื้อโปรตัวซัว ซึ่งจะแตกต่างจากโรคอุจจาระร่วงทั่วๆไปในประเทศไทยหรืออาการไข้ในนักท่องเที่ยวที่เพิ่งกลับจากต่างประเทศ อาจเกิดจากเชื้อโรคที่ไม่พบในประเทศไทย เช่น West Nile Virus, Lyme disease เป็นต้น
ที่คลินิกนักท่องเที่ยว โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน สามารถตรวจ วินิจฉัยและให้การรักษานักท่องเที่ยวที่ไม่สบายหลังจากการเดินทาง โดยแพทย์จะทำการซักประวัติต่างๆรวมถึงประวัติการเดินทางอย่างละเอียด ทำการตรวจร่างกาย และอาจจำเป็นต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจเลือด ตรวจอุจจาระ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยโรคและสามารถรักษาได้อย่างถูกต้อง
ในกรณีที่นักท่องเที่ยวมีอาการไม่สบายและได้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอื่นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรคพยาบาลในประเทศหรือต่างประเทศ ควรนำประวัติทางการแพทย์ สำเนาเวชระเบียน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆ ผลเอ๊กซ์เรย์ มาพบแพทย์ด้วย จะทำให้การวินิจฉัยโรคเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การตรวจพิเศษทางห้อง LAB | เชื้อมาลาเรียในเม็ดเลือดแดง | เชื้อโปรโตซัว E. histolytica |